Custom Search

รายการบล็อก

1. พฤติกรรมที่เป็นปัญหาของนักเรียนเกิดจากสาเหตุใด?
 ก.ไม่ได้เรียนในโรงเรียนที่มีชื่อเสียง ข.มีพ่อแม่คอยเคี่ยวเข็ญ
  ค.สิ่งแวดล้อมชักจูง ง.มีจริยธรรมต่ำ
 ตอบ ง. มีจริยธรรมต่ำ
2. คุณธรรมสำหรับครูคือข้อใด?
 ก. คุณงามความดีของคนที่เป็นครู ข. มีพฤติกรรมที่ดีเป็นที่ยอมรับของสังคม
  ค. มีความเสียสละมีความยุติธรรม ง. ถูกทุกข้อ
 ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
3. จริยธรรม ตามพจนานุกรมราชบัญฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 หมายถึงข้อใด?
 ก. ธรรมที่เป็นข้อประพฤติปฏิบัติ ข. คำสั่งสอน
 ค. หลักปฏิบัติในทางศาสนา ง. ไม่มีข้อถูก
 ตอบ ก. ธรรมที่เป็นข้อประพฤติปฏิบัติ
4. ความรู้จริยธรรม หมายถึงข้อใด?
 ก. การมีความรู้สึกต่อพฤติกรรมต่างๆ
 ข. การแสดงพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ต่อสังคม
 ค. ความรู้เกี่ยวกับสังคมสามรถบอกได้ว่า การกระทำใดดี การกระทำใดไม่ดีเหมาะสมมากน้อยเพียงใด [url]WWW.actcorner.com[/url]
 ง. เหตุผลที่ใช้เป็นเกณฑ์ใสการเลือกหรือไม่เลือกกระทำ
 ตอบ ค. ความรู้เกี่ยวกับสังคมสามรถบอกได้ว่า การกระทำใดดี การกระทำใดไม่ดีเหมาะสม
 มากน้อย เพียงใด
5. พฤติกรรมเชิงจริยธรรม หมายถึงข้อใด?
 ก. การแสดงพฤติกรรมที่พึงประสงค์ของสังคมและปฏิเสธการแสดงพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ของสังคม
 ข. เบื้องหลังการกระทำของบุคคลใช้เป็นเกณฑ์ในการเลือกกระทำ
 ค. ความรู้สึกต่อพฤติกรรมต่างๆ ในทางที่ชอบหรือไม่ชอบ
 ง. ไม่มีข้อถูก
 ตอบ ก. การแสดงพฤติกรรมที่พึงประสงค์ของสังคมและปฏิเสธการแสดงพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์
 ของสังคม
6. ความสัมพันธ์ของคุณธรรมและจริยธรรมหมายถึงข้อใด?
 ก. เป็นเรื่องเดียวกัน ข. เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกัน
 ค. เป็นเรื่องการกระทำของบุคคล ง. เป็นเรื่องที่อยู่ในจิตใจของบุคคล
  ตอบ ข. เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกัน
7. พัฒนาการทางจริยธรรม หมายถึงข้อใด?
 ก. 2 ขั้น ข. 3 ขั้น ค. 4 ขั้น ง. 5 ขั้น
 ตอบ ข. 3 ขั้น
8. ขั้นก่อนจริยธรรมของPaigaetหมายถึงข้อใด? อ.วันนรัตน์ เเอ๊คกรุ๊ป
 ก. ระดับจริยธรรมของเด็กอายุ 0-2 ปี
 ข.ระดับจริยธรรมของเด็กอายุ 2-6 ปี
 ค.ระดับจริยธรรมของเด็กอายุ 6-10 ปี
 ง.ระดับจริยธรรมของเด็กอายุ 10-15 ปี
  ตอบ ก. ระดับจริยธรรมของเด็กอายุ 0-2 ปี
9. ขั้นการให้เหตุผลเชิงพฤติกรรมของ Kohlberg ระดับตามเกณฑ์สังคม อายุ 10-13 ปีตรงกับข้อใด?
 ก. การหลบหลีกการลงโทษ ข. การแสวงหารางวัล
 ค. การทำตามสิ่งที่ผู้อื่นเห็นชอบ ง. การทำตามคำมั่นสัญญา
 ตอบ ค. การทำตามสิ่งที่ผู้อื่นเห็นชอบ
10. ขั้นการให้เหตุผลเชิงจริยธรรมของ Kohlbergขั้นที่ 6 หมายถึงข้อใด?
 ก. การยึดถืออุดมคติสากลหรือจริยธรรมสากล(วัยผู้ใหญ่)
 ข. การทำหน้าที่ทางสังคมหรือระบบสังคมและมโนธรรม
 ค. การทำตามคำสัญญาและสิทธิ
 ง. การแสวงหารางวัลหรือการตอบสนองตามความต้องการ
 ตอบ ก.การยึดถืออุดมคติสากลหรือจริยธรรมสากล(วัยผู้ใหญ่)
12. พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำรัสการรู้จักข่มใจหมายถึงข้อใด?
 ก. ความจริงใจต่อตนเอง ข. การรู้จักฝึกใจตนเอง
 ค. การประพฤติปฏิบัติต่อสิ่งที่เป็นประโยชน์ ง. รู้จักเสียสละประโยชน์ส่วนตัวเพื่อส่วนร่วม
  ตอบ ข. การรู้จักฝึกใจตนเอง
13. สังคหวัตถุ 4 คือ คุณธรรมในข้อใด?
 ก. เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวใจคน ข. เป็นเครื่องทำให้ประสบความสำเร็จ
 ค. เป็นคุณธรรมของผู้ครองเรือน ง. เป็นคุณธรรมของผู้เป็นผู้ใหญ่
 ตอบ ก. เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวใจคน
14. คุณธรรมที่ทำให้ประสบความสำเร็จ หมายถึง ข้อใด?
 ก. พรหมวิหาร 4 ข. สังคหวัตถุ 4
 ค. ธรรมของฆราวาส 4  ง. อิทธิบาท 4
 ตอบ ง. อิทธิบาท 4
15. การที่คนเรารู้จักแยกแยะว่าสิ่งนี้เป็นเหตุแห่งสุขสิ่งนี้เป็นแห่งเหตุตรงกับสัปปุริธรรม 7 ข้อใด?
 ก. อัตตญญุตา ข. ธัมมัญญุตา
 ค. อัตถัญญตา ง. มัตตัญญุตา
 ตอบ ข. ธัมมัญญุตา
16. ธรรมใดเป็นเครื่องคุ้มครองโลก?
 ก. ขันติ ข. โสรัจจะ
  ค. หิริโอตัปปะ ง. สัจจะ
 ตอบ ค. หิริโอปตัปปะ
17.อคติ 4 คือ คุณธรรมข้อใด?
 ก. ธรรมที่ควรรักษาไว้เป็นนิจ ข. ธรรมของผู้ครองเรือน
 ค. ธรรมที่เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวใจคน ง. ธรรมที่ไม่ควรประพฤติ
 ตอบ ง. ธรรมที่ไม่ควรประพฤติ
18. โทสาคติ หมายถึงข้อใด?
 ก. ลำเอียงเพราะรักใคร่ ข. ลำเอียงเพราะไม่ชอบกัน
  ค. ลำเอียงเพราะเขลา ง. ลำเอียงเพราะกลัว
 ตอบ ข. ลำเอียงเพราะไม่ชอบกัน
19. สิ่งใดสามารถยับยั้งความโกรธได้?
 ก. เมตตา กรุณา ข. มุทิตา อุเบกขา
 ค. สติ สัมปัญชัญญะ ง. ฉันทะ วิริยะ
 ตอบ ค. สติ สัมปัญชัญญะ
20. ผลดีของการมีสติหมายถึง ข้อใด?
 ก. รู้ว่าใครจะทำอะไร ข. รู้เหตุการณ์ล่วงหน้า
 ค. รู้ว่าตนเองกำลังทำอะไร ง. รู้อดีตชาติของตนเอง
 ตอบ ค. รู้ว่าตนเองกำลังทำอะไร
21. การที่คนเรามีใจจ่ออยู่สิ่งที่กระทำ มีความหมายตรงกับข้อใด?
 ก. มีศีล ข. มีสมาธิ ค. มีปัญญา ง. มีสติ
 ตอบ ข. มีสมาธิ
22. ศีลในข้อใดทำให้คนเรามีสติ?
 ก. ศีลข้อ 1 ข. ศีล 3 ข้อ ค. ศีล 4 ข้อ ง. ศีล 5 ข้อ
 ตอบ ง. ศีล 5 ข้อ
23. ความจริง หรือความเสื่อมของสังคม วัดได้จากอไร?
 ก. ค่านิยม ข. วัฒนธรรม 
 ค. ความสามัคคี ง. กฎหมายระเบียบข้อบังคับ
 ตอบ ข. วัฒนธรรม
24. ค่านิยมในชนบท หมายถึงข้อใด? อ.สุวรรณกร เเอ๊คกรุ๊ป
 ก. เห็นแก่ตัวไม่เชื่อใจใคร ข. ชอบจัดพิธีชอบแข่งขัน
 ค. เชื่อโชคลาภรักญาติพี่น้อง  ง. รักเทิดทูนสถาบันชาติ
 ตอบ ค. เชื่อโชคลาภรักญาติพี่น้อง
0. หมวกแห่งความคิดมีทั้งหมดกี่ใบ
ก. 
3 ใบ                                                                                   ข.  4 ใบ
ค.
5 ใบ                                                                                    ง.  6 ใบ

21. หมกสีใดแทนความรู้สึกและการหยั่งรู้
ก.  แดง                                                                                    ข.  เหลือง
ค.  เขียว                                                                                   ง.  น้ำเงิน
22. หมวกสีใดแทนความคิดสร้างสรรค์
ก.  แดง                                                                                    ข.  เหลือง
ค.  เขียว                                                                                   ง.  น้ำเงิน
23. ผู้นำ  สวมหมวกสีอะไร
ก.  แดง                                                                                    ข.  เหลือง
ค.  เขียว                                                                                   ง.  น้ำเงิน
24. หมกสีอะไรแสดงถึง ทิศทางความคิดเห็นที่เป็นกลาง
ก.  หมวกสีขาว                                                                       ข.  หมวกสีเหลือง
ค.  หมวกสีแดง                                                                      ง.  หมวกสีฟ้า
25. หมวกสีอะไรแสดงถึง อารมณ์  ความโกรธ
ก.  หมวกสีขาว                                                                       ข.  หมวกสีเหลือง
ค.  หมวกสีแดง                                                                      ง.  หมวกสีฟ้า
26. หมวกสีอะไรแสดงถึง ความสว่างไสว
ก.  หมวกสีขาว                                                                       ข.  หมวกสีเหลือง
ค.  หมวกสีแดง                                                                      ง.  หมวกสีฟ้า
27. หมวกสีอะไรแสดงถึง  ความเยือกเย็น
ก.  หมวกสีขาว                                                                       ข.  หมวกสีเหลือง
ค.  หมวกสีแดง                                                                      ง.  หมวกสีฟ้า
28. เด็กที่ถามว่า เรามีข้อมูลอะไรบ้าง  แสดงว่าสวมหมวกสีอะไร
ก.  หมวกสีขาว                                                                       ข.  หมวกสีเหลือง
ค.  หมวกสีแดง                                                                      ง.  หมวกสีฟ้า
29. เด็กที่ถาม เรารู้สึกอย่างไร แสดงว่าสวมหมวกสีอะไร
ก.  หมวกสีขาว                                                                       ข.  หมวกสีเหลือง
ค.  หมวกสีแดง                                                                      ง.  หมวกสีฟ้า
30. เด็กที่ถามว่า อะไรคือจุดอ่อน  แสดงว่าสวมหมวกสีอะไร
ก.  หมวกสีขาว                                                                       ข.  หมวกสีเหลือง
ค.  หมวกสีแดง                                                                      ง.  หมวกสีดำ
31. เด็กที่ถามว่า จุดที่ดีคืออะไรแสดงว่าสวมหมวกสีอะไร
ก.  หมวกสีขาว                                                                       ข.  หมวกสีเหลือง
ค.  หมวกสีแดง                                                                      ง.  หมวกสีฟ้า
32. เด็กที่ถามว่านักเรียนจะนำความคิดนี้ไปปรับปรุงพัฒนาอะไร แสดงว่าสวมหมวกสีอะไร
ก.  หมวกสีขาว                                                                       ข.  หมวกสีเขียว
ค.  หมวกสีแดง                                                                      ง.  หมวกสีฟ้า
33. เด็กที่ถามว่า  ขั้นตอนต่อไปนี้คืออะไร  แสดงว่าสวมหมวกสีอะไร
ก.  หมวกสีขาว                                                                       ข.  หมวกสีเหลือง
ค.  หมวกสีแดง                                                                      ง.  หมวกสีฟ้า
34. นวัตกรรม เป็นความคิดสร้างสรรค์ประเภทใด
ก.  ความเปลี่ยนแปลง 
(Innovation)                                 ข.  ประเภทการสังเคราะห์ (Synthesis)
ค.  ประเภทต่อเนื่อง (Extension)                                       ง.  ประเภทการลอกเลียน  (Duplication)
35. การนำความรู้ทางคณิตศาสตร์ไปใช้ในการแก้ปัญหาการบริหารเป็นความคิดสร้างสรรค์ประเภทใด
ก.  ความเปลี่ยนแปลง 
(Innovation)                                 ข.  ประเภทการสังเคราะห์ (Synthesis)
ค.  ประเภทต่อเนื่อง (Extension)                                       ง.  ประเภทการลอกเลียน  (Duplication)
36. งานอุตสาหกรรมการสร้างรถยนต์  ซึ่งในแต่ละปีจะมีการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องจากต้นแบบเดิม  เป็นคิดสร้างสรรค์ประเภทใด
ก.  ความเปลี่ยนแปลง 
(Innovation)                                 ข.  ประเภทการสังเคราะห์ (Synthesis)
ค.  ประเภทต่อเนื่อง (Extension)                                       ง.  ประเภทการลอกเลียน  (Duplication)
ข้อสอบเรื่องที่  ความคิดสร้างสรรค์ต่อวิชาชีพ
คำชี้แจง   1.  ข้อสอบมีทั้งหมด 100 ข้อ  คะแนนเต็ม 100 คะแนน
               
2.  ให้กาเครื่องหมาย  x ทับข้อ ก  ข   ค  หรือ  ง  ที่ถูกที่สุด
1. ความคิดสร้างสรรค์  หมายถึง  ลักษณะความคิดใด
ก.  ความคิดเอกนัย                                                                ข.  ความคิดฝันเฟื่อง
ค.  ความคิดอเนกนัย                                                             ง.  ความคิดเชิงกลยุทธ์
2. ข้อใดจัดเป็นความเชื่อพื้นฐานเกี่ยวกับความคิดสร้างสรรค์
ก.  สอนหรือฝึกฝนไม่ได้
ข.  ความคิดสร้างสรรค์เป็นพรสวรรค์เท่านั้น
ค.  คนที่มีไอคิวสูงสุด  จึงจะมีความคิดสร้างสรรค์
ง.  ความคิดสร้างสรรค์  ส่งเสริมให้พัฒนาสูงขึ้นได้
3. การคิดอเนกนัยหมายถึงลักษณะความคิดใด
ก.  การคิดค้นหาคำตอบที่ดีที่สุดเพียงคำตอบเดียว
ข.  การคิดค้นหาคำตอบหลายๆทางโดยยึดถือความมีเหตุผลเป็นหลัก
ค.  การคิดหาคำตอบโดยพิจารณาความรู้  และข้อเท็จจริงมาใช้ในการแก้ปัญหา
ง.  การคิดค้นหาคำตอบหลายๆทิศทางให้ได้คำตอบหลากหลาย  และอาจใช้จินตนาการด้วย
4. ทำไมจึงต้องมีความคิดสร้างสรรค์ในงานทำงาน
ก.  ความคิดเดิมๆ แก้ไขปัญหาไม่ได้
ข.  โลกเปลี่ยน  สถานการณ์เปลี่ยน  ปัญหาเปลี่ยน
ค.  การแข่งขันสูง  องค์กรต้องแข่งขันให้ได้  จึงจะอยู่รอด
ง.  ถูกต้องทุกข้อ
5. ข้อใดจัดเป็นองค์ประกอบของความคิดสร้างสรรค์
ก.  ความคิดริเริ่ม  ความคิดยืดหยุ่น  ความคิดกระจาย  ความคิดละเอียดลออ
ข.  ความคิดยืดหยุ่น  ความคิดเอกนัย  ความคิดละเอียดลออ  ความคิดริเริ่ม
ค.  ความคิดคล่องตัว  ความคิดกระจาย  ความคิดยืดหยุ่น  ความคิดสังเคราะห์
ง.  ความคิดคล่องตัว  ความคิดยืดหยุ่น 
  ความคิดริเริ่ม    ความคิดละเอียดลออ
6. ความยืดหยุ่นในการคิดหมายถึงข้อใด
ก.  ปริมาณความคิดไวในการแก้ปัญหา
ข.  ปริมาณความคิดแปลกใหม่  แตกต่างจากความคิดอื่น
ค.  ปริมาณ  ประเภท  แบบ ชนิด  ของ ความคิดที่ไม่ซ้ำกัน
ง.  ปริมาณความคิดในรายละเอียด  ขั้นตอนที่มา  ตกแต่ง  จัดลำดับ  เพื่อช่วยให้ความคิดครั้งแรกสมบูรณ์
7. ลักษณะเด่นของผู้ที่มีความคิดสร้างสรรค์
ก.  กล้าเผชิญความจริง                                                         ข.  กระตือรือร้น  และมีจิตสำนึกเร่งด่วน
ค.  ปรับตัวในทางสังคมได้เป็นอย่างดี                              ง.  ยอมรับการตัดสินใจของตนและของกลุ่ม
8. ลักษณะพฤติกรรมสร้างสรรค์ที่ควรได้รับการส่งเสริมเป็นพิเศษ
ก.  ชอบการผจญภัย  กล้าเสี่ยง                                            ข.  หยิ่งและพอใจในตนเอง
ค.  ประณีตและเป็นระเบียบ                                               ง.  ไม่เคยเบื่อ  สนใจเสมอ
9. กระบวนการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์มีขั้นตอนอย่างไร
ก.  เกิดปัญหา  รวบรวมข้อมูลตั้งสมมติฐาน  สรุปผล
ข.  เกิดความผิดปกติ  มองเห็นปัญหารวบรวมข้อมูล  ทดสอบสมมติฐาน
ค.  เกิดปัญหา  ตั้งสมมติฐาน  รวบรวมข้อมูล  สังเคราะห์คำตอบ
ง.  เกิดปัญหา  ตั้งสมมติฐาน  รวบรวมข้อมูล  วิเคราะห์  สรุปผล  นำไปสู่สิ่งใหม่
10. สภาวะใดที่ส่งเสริมให้บุคคลกล้าคิดสร้างสรรค์ในการทำงาน
ก.  สภาวะที่บุคคลมีความกังวลใจสูง
ข.  สภาวะที่บุคคลหวังผลเลิศในสิ่งที่ตนกระทำ
ค.  สภาวะที่บุคคลต้องแข่งขันและใช้ความพยายามสูงสุด
ง.  สภาวะที่บุคคลรู้สึกสบาย  ปลอดโปร่ง  และปลอดภัย
11. ความคิดสร้างสรรค์สามรถส่งเสริมได้ดีในอาชีพใด
ก.  ศิลปิน                                                                                ข.  ครู / ผู้สอน
ค.  นักธุรกิจ                                                                            ง.  ทุกอาชีพ
12. ข้อใดมักเป็นเหตุเป็นผลในการทำงานให้ประสบความสำเร็จของนักคิดสร้างสรรค์
ก.  ทำงานเพื่อให้คนอื่นมีความสุข
ข.  ทำงานเพื่อชื่อเสียง  เกียรติยศ
ค.  ทำงานเพื่อความอยากเด่นดัง  และอำนาจ
ง.  ทำงานเพื่อความสุข  ความพอใจของตนเอง
13. ปรมาจารย์ที่มีชื่อเสียง  จัดเป็นบิดาแห่งความคิดสร้างสรรค์
ก.  ติลฟอร์ด                                                                           ข.  เอดิสัน
ค.  โรเจอร์ส                                                                           ง.  ทอแรนซ์
14. ข้อใดมีความสัมพันธ์กับ หลักในการระดมพลังสมอง
ก.  ความคิดยิ่งมาก  ยิ่งดี
ข.  การตัดประเด็นที่ไม่สำคัญ
ค.  การสรุปความคิดเป็นสิ่งที่ควรทำในเวลาอันรวดเร็ว
ง.  การระดมความคิดจำเป็นต้องใช้กลุ่มบุคคลตั้งแต่
10 คนขึ้นไป
15. หากท่านใช้เทคนิคการคิดด้วยหมวก ใบ  และท่านสวมหมวกสีฟ้าในการคิด  แสดงว่าท่านกำลังคิดในเรื่องใด
ก.  การคิดทางบวก ที่ดี                                                        
ข.  การคิดด้วยอารมณ์
ค.  การนำเสนอข้อมูล  สิ่งที่เป็นจริง                                
ง.  การควบคุมและดำเนินการให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์
16. การคิดหาคำตอบถูกเพียงคำตอบเดียว  เป็นการคิดตามข้อใด
ก. ความคิดเอกนัย
(Convergent Thinking)                      ข.  ความคิดอเนกนัย  (Divergent Thinking)
ค.  ความคิดเชิงกลยุทธ์
(Strategic Thinking)                   ง.  การคิดแบบมีวิจารณญาณ
17. การคิดหาคำตอบหลายคำตอบ  เป็นการคิดตามข้อใด
ก. ความคิดเอกนัย
(Convergent Thinking)                      ข.  ความคิดอเนกนัย  (Divergent Thinking)
ค.  ความคิดเชิงกลยุทธ์
(Strategic Thinking)                   ง.  การคิดแบบมีวิจารณญาณ
18. การคิดหาวิธีเอาชนะข้อจำกัดและคู่แข่งขัน  เป็นการคิดตามข้อใด
ก. ความคิดเอกนัย
(Convergent Thinking)                      ข.  ความคิดอเนกนัย  (Divergent Thinking)
ค.  ความคิดเชิงกลยุทธ์
(Strategic Thinking)                   ง.  การคิดแบบมีวิจารณญาณ
19. หมวดแห่งความคิดเป็นแนวคิดของผู้ใด
ก. 
Bloom                                                                               ข.  Edward  de Bono
ค.  Skinner                                                                             ง.  Thrndrilke
ภาค ก. ความรอบรู้ ความสามารถทั่วไป และความสามารถที่ใช้เฉพาะตำแหน่ง
(คะแนนเต็ม 350 คะแนน)
ทดสอบความรอบรู้ ความสามารถทั่วไป และความสามารถที่ใช้เฉพาะตำแหน่ง ด้วยวิธีสอบข้อเขียน โดยคำนึงถึงระดับความรู้ความสามารถที่ต้องการของตำแหน่งตามที่กำหนดไว้ในมาตรฐานตำแหน่ง ดังต่อไปนี้
   1. ความรอบรู้  (คะแนนเต็ม 75 คะแนน)   ทดสอบในเรื่องต่อไปนี้
       1.1  สังคม เศรษฐกิจ  การเมือง  และเหตุการณ์ปัจจุบัน
       1.2  นโยบายของรัฐบาลที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา
       1.3  เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
       1.4  วัฒนธรรมไทย และขนบธรรมเนียมประเพณีท้องถิ่น
       1.5  กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติราชการ
               1.5.1  พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542   และที่แก้ไขเพิ่มเติม
               1.5.2  พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. 2546
               1.5.3  พระราชบัญญัติสภาครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2546
               1.5.4  พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547
              1.5.5  พระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546
              1.5.6  พระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหาร กิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ.2546
               1.5.7  กฎกระทรวง กฎ ก.ค.ศ. ระเบียบเกี่ยวกับการปฏิบัติงานในหน้าที่  ที่ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา กำหนด  เช่น
                                1). กฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการกระจายอำนาจการบริหารและการจัดการศึกษา
                                2). กฎ ก.พ.ว่าด้วยการเลื่อนขั้นเงินเดือน พ.ศ.2544
                                3). ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการลาของข้าราชการ พ.ศ.2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
                                4). ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการแก้ไขวัน เดือน ปีเกิด ในทะเบียนประวัติข้าราชการ พ.ศ.2548
                                5). กฎ ก.ค. ฉบับที่ 21 (พ.ศ.2541) ออกตามความในพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครู พ.ศ.2523 ว่าด้วยกรณีหย่อนความสามารถในอันที่จะปฏิบัติราชการ บกพร่องในหน้าที่ราชการ หรือประพฤติตนไม่เหมาะสมกับตำแหน่งหน้าที่ราชการที่ปรากฏชัดแจ้ง
                                6). กฎ ก.ค.ว่าด้วยการอุทธรณ์ และการพิจารณาอุทธรณ์ พ.ศ.2545
                                7). กฎ ก.ค.ศ.ว่าด้วยโรค พ.ศ.2549
                                8). กฎ ก.ค.ศ.ว่าด้วยความผิดปรากฏชัดแจ้ง พ.ศ.2549
                                9). ระเบียบ ก.ค.ศ.ว่าด้วยการลาออกจากราชการของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2548
                                10). ระเบียบ ก.ค.ศ. ว่าด้วยวันออกจากราชการของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2548
                                11). ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยกำหนดเวลาทำงานและวันหยุดราชการของสถานศึกษา พ.ศ.2547
                                12). มาตรฐานตำแหน่งและมาตรฐานวิทยฐานะของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
                                13). หลักเกณฑ์และวิธีการเตรียมความพร้อมและพัฒนาอย่างเข้มก่อน แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งครู
                14). หลักเกณฑ์และวิธีการให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามีวิทยฐานะหรือเลื่อนวิทยฐานะ
                                15). หลักเกณฑ์และวิธีการย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา สังกัด สพฐ.
                16). การบริหารสถานศึกษาขั้นพื้นฐานที่เป็นนิติบุคคล
                17). ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการลงโทษนักเรียน นักศึกษา พ.ศ. 2548
2.  ความสามารถทั่วไป  (คะแนนเต็ม  75  คะแนน)  ทดสอบในเรื่องต่อไปนี้
              2.1  ความสามารถด้านตัวเลข  ทดสอบโดยการวัดความสามารถในการคิดเลข
สรุปเหตุผลเกี่ยวกับตัวเลขและข้อมูลต่าง ๆ
              2.2  ความสามารถด้านภาษาไทย  ทดสอบความเข้าใจภาษา  การอ่านจับใจความ
การสรุปความ การตีความ การขยายความ การเรียงข้อความ การสะกดคำ  การแต่งประโยค และคำศัพท์
               2.3 ความสามารถด้านเหตุผล  ทดสอบโดยการวัดความสามารถในการคิดสรุปหาเหตุผล และอุปมาอุปไมย

3.  ความรู้ความสามารถที่ใช้เฉพาะตำแหน่ง  (คะแนนเต็ม  200  คะแนน)
           3.1  ความรู้ความสามารถเกี่ยวกับวิชาการศึกษา (คะแนนเต็ม  100  คะแนน)  ทดสอบโดยวิธีการสอบข้อเขียน ในเรื่องต่อไปนี้
         3.1.1  หลักการศึกษา
         3.1.2  หลักสูตรและการพัฒนาหลักสูตร
         3.1.3  การจัดกระบวนการเรียนรู้
         3.1.4  จิตวิทยาการศึกษาและการแนะแนว
         3.1.5  สื่อและนวัตกรรมการศึกษา
         3.1.6  การวัดและประเมินผลการศึกษา

3.2  ความรู้ความสามารถเกี่ยวกับวิชาเอก  (คะแนนเต็ม  100  คะแนน)  ทดสอบ
โดยวิธีการสอบข้อเขียน เกี่ยวกับความรู้ในเนื้อหากลุ่มวิชา หรือทาง หรือสาขาวิชาเอก

  ภาค ข.  ความเหมาะสมกับวิชาชีพ  (คะแนนเต็ม  150 µ คะแนน)
1.  ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับวิชาชีพครู  (คะแนนเต็ม  100  คะแนน)  ทดสอบโดยวิธีการ
สอบข้อเขียน ในเรื่องต่อไปนี้
    1.1  เจตคติต่อวิชาชีพ
    1.2  จรรยาบรรณวิชาชีพ
    1.3  คุณธรรม จริยธรรม และค่านิยม
    1.4  ความมีวินัยและรักษาวินัย
   1.5  ความเป็นพลเมืองดี
   1.6   การปรับตัวและมนุษยสัมพันธ์
    1.7   การทำงานร่วมกับผู้อื่น
    1.8   ความคิดสร้างสรรค์ต่อวิชาชีพ
    1.9   การจัดการความรู้
    1.10  การสร้างความสัมพันธ์กับชุมชน
   2. ประเมินความเหมาะสมของบุคคล  (คะแนนเต็ม  50  คะแนน)  โดยวิธีการสัมภาษณ์  สังเกต
ดังต่อไปนี้
       2.1  ประวัติส่วนตัว  ประวัติการศึกษา
       2.2  บุคลิกภาพ
       2.3  การมีปฏิภาณไหวพริบ
       2.4  การมีปฏิสัมพันธ์
1.    ผู้ที่กินอาหารไม่ตรงเวลา มีผลต่ออวัยวะใด
    ก. ลำไส้เล็ก                             ข. ลำไส้ใหญ่
    ค. ทวารหนัก                             ง. กระเพาะอาหาร
    ตอบ  ง. กระเพาะอาหาร
2.    การยกของหนักมากๆ คนเดียว มีผลต่ออวัยวะใดมากที่สุด
    ก. กล้ามเนื้อ                             ข. ปอด
    ค. หัวใจ                                 ง. กระดูก
    ตอบ  ก. กล้ามเนื้อ
3.    ใครปฏิบัติตนได้เหมาะสมในการดูแลรักษากระดูก
    ก. ฝนอาบน้ำทุกวัน                        ข. ต่ายกินปลาตัวเล็กเป็นประจำ
    ค. ต้นปีนต้นไม้อยู่เสมอ                    ง. นกขับถ่ายอุจจาระทุกวัน
    ตอบ  ข. ต่ายกินปลาตัวเล็กเป็นประจำ
4.    อวัยวะใดมีหน้าที่เกี่ยวกับระบบขับถ่าย
    ก. ม้าม ตับ ไต                            ข. ตับ ไต ต่อมไขมัน
    ค. ไต ลำไส้ใหญ่ ทวารหนัก                ง. ต่อมเหงื่อ ปอด หัวใจ
    ตอบ  ค. ไต ลำไส้ใหญ่ ทวารหนัก
5.    ข้อใดกล่าวถูกต้อง
    ก. ดื่มน้ำมากๆ ทำให้ขับถ่ายคล่อง            ข. ออกกำลังกายหักโหม ทำให้กล้ามเนื้อแข็งแรง
    ค. ไม่ควรกินอาหารที่มีรสจืด                ง. ไม่ควรถ่ายอุจจาระขณะเรียนหนังสือ
    ตอบ  ก. ดื่มน้ำมากๆ ทำให้ขับถ่ายคล่อง
6.    การกลั้นปัสสาวะนานๆ มีผลเสียในแง่ใดมากที่สุด
    ก. ทำให้กระเพาะอาหารอักเสบ                ข. ทำให้กระเพาะปัสสาวะอักเสบ
    ค. ทำให้ผิวหนังหยาบกร้าน                ง. ทำให้ลำไส้ใหญ่ไม่ทำงาน
    ตอบ  ข. ทำให้กระเพาะปัสสาวะอักเสบ
7.    การดื่มนมมีประโยชน์ต่อฟันอย่างไร
    ก. ทำให้ฟันขาว                            ข. ทำให้ฟันไม่ผุ
    ค. ทำให้ฟันแข็งแรง                        ง. ทำให้ฟันไม่บิ่น
    ตอบ  ค. ทำให้ฟันแข็งแรง
8.    การเปลี่ยนแปลงข้อใดเห็นได้ชัดเมื่อย่างเข้าวัยรุ่น
    ก. สังคม                                 ข. ร่างกาย

    ค. จิตใจ                                 ง. สติปัญญา
    ตอบ  ข. ร่างกาย
9.    การปฏิบัติตนที่เหมาะสมสำหรับวัยรุ่นคือข้อใด
    ก. รักษาความสะอาดร่างกายทุกวัน            ข. กินอาหารให้มากๆ
    ค. คุยโทรศัพท์กับเพื่อนบ่อยๆ                ง. แต่งกายตามแฟชั่น
    ตอบ  ก. รักษาความสะอาดร่างกายทุกวัน
10.    วัยรุ่นมักให้ความสนใจกับเพื่อนมากกว่าพ่อแม่เพราะอะไร
    ก. เพื่อนรักเรามากกว่าพ่อแม่               
    ข. เพื่อนเข้าใจเรามากกว่าพ่อแม่
    ค. พ่อแม่ไม่เอาใจใส่ลูกเหมือนตอนที่เป็นเด็ก   
    ง. เป็นพฤติกรรมที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงด้านสังคม
    ตอบ  ง. เป็นพฤติกรรมที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงด้านสังคม
11.    ครอบครัวจะมีความสุข ถ้าสมาชิกทุกคนปฏิบัติอย่างไร
    ก. มีน้ำใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อกัน                ข. ถ้าใครพูดดีก็จะพูดตอบ
    ค. คอยให้ผู้ใหญ่มาช่วยงานตนอยู่เสมอ        ง. คอยสอดส่องความประพฤติของพี่น้อง
    ตอบ  ก. มีน้ำใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อกัน
12.    น้องควรปฏิบัติต่อพี่อย่างไร
    ก. ชวนพี่ไปเที่ยว                        ข. ตามพี่ไปทุกแห่ง
    ค. เคารพเชื่อฟังพี่                        ง. ป้องกันอันตรายให้พี่
    ตอบ  ค. เคารพเชื่อฟังพี่
13.    ถ้าพ่อแม่ห้ามไม่ให้เราออกไปเที่ยวตอนกลางคืน เราจะทำอย่างไร
    ก. แอบหนีไปเมื่อพ่อแม่เผลอ                ข. ต่อว่าพ่อแม่ที่ไม่เข้าใจเรา
    ค. หักห้ามใจไม่ออกไปเที่ยว                ง. ชี้แจงเหตุผลให้พ่อแม่เข้าใจก่อนไป
    ตอบ  ค. หักห้ามใจไม่ออกไปเที่ยว
14.    ถ้าเราเป็นลูก และเห็นพ่อสูบบุหรี่ควรทำอย่างไร
    ก. เข้าไปต่อว่าพ่อ                        ข. ขอร้องให้พ่อเลิกสูบบุหรี่
    ค. ทำเป็นไม่สนใจ                        ง. บอกให้แม่มาดุ
    ตอบ  ข. ขอร้องให้พ่อเลิกสูบบุหรี่
15.    ผู้ที่ชอบนินทาว่าร้ายผู้อื่น มีผลเสียในแง่ใด
    ก. ผลการเรียนไม่ดี                        ข. ร่างกายอ่อนแอ

    ค. มีฐานะยากจน                        ง. ไม่มีเพื่อน
    ตอบ  ง. ไม่มีเพื่อน
16.    เหตุใดเราจึงควรเปลี่ยนกางเกงในทุกวัน
    ก. เพื่อป้องกันการอับชื้นและเกิดเชื้อรา        ข. เพื่อไม่ให้อวัยวะเพศดำคล้ำ
    ค. เพื่อทำให้ขับถ่ายได้สะดวก                ง. เพื่อป้องกันการเกิดบาดแผล
    ตอบ  ก. เพื่อป้องกันการอับชื้นและเกิดเชื้อรา
17.    การแต่งกายด้วยชุดที่ไม่เหมาะสม มีผลเสียอย่างไร
    ก. เปลืองเงิน                            ข. ทำให้เป็นโรคได้ง่าย
    ค. ทำให้ถูกลวนลามได้ง่าย                    ง. ทำให้ร่างกายอ่อนแอ
    ตอบ  ค. ทำให้ถูกลวนลามได้ง่าย   
18.    วิธีป้องกันการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่คาดคิดควรทำอย่างไร
    ก. ไม่คบเพื่อนต่างเพศ                    ข. ไม่คุยกับเพศตรงข้าม
    ค. ไม่กินข้าวกับเพศตรงข้าม                ง. ไม่อยู่ตามลำพังกับเพศตรงข้าม
    ตอบ  ง. ไม่อยู่ตามลำพังกับเพศตรงข้าม
19.    วิภาวีเป็นท่าน วันหนึ่งแฟนของเธอขอมีเพศสัมพันธ์ด้วยเพื่อพิสูจน์ความรัก
    วิภาวีควรทำอย่างไร
    ก. ยอมมีเพศสัมพันธ์ด้วย                    ข. ปฏิเสธอย่างตรงไปตรงมา
    ค. ขอเวลาคิด 1-2 วัน                        ง. ขอผลัดเป็นวันพรุ่งนี้
    ตอบ  ข. ปฏิเสธอย่างตรงไปตรงมา
20.    ถ้าท่านมีตุ่มแดงขึ้นที่ผิวหนัง แม้ผ่านไปหลายวันแล้วก็ยังไม่หาย ท่านควรทำอย่างไร
    ก. บอกให้พ่อแม่พาไปพบแพทย์                ข. อาบน้ำให้บ่อยขึ้น
    ค. ซื้อยาจากร้านขายยามาทา                ง. กินยาแก้อักเสบ
    ตอบ  ก. บอกให้พ่อแม่พาไปพบแพทย์   
21.    ถ้าเราเครียดเพราะกลัวสอบตก ควรหาวิธีป้องกันอย่างไร
    ก. กินวิตามินบำรุงสมอง                    ข. ทบทวนบทเรียนอยู่เสมอ
    ค. ขอให้เพื่อนช่วยบอกคำตอบ                ง. ขอร้องให้ครูบอกแนวทางข้อสอบ
    ตอบ  ข. ทบทวนบทเรียนอยู่เสมอ